|
|
|
|
|
|
|
|
|
ผู้ชม
|
|
วันนี้
|
90
|
เมื่อวาน
|
271
|
ทั้งหมด
|
911,133
|
|
|
ชมหน้าอื่นๆ
|
|
วันนี้
|
91
|
เมื่อวาน
|
288
|
ทั้งหมด
|
1,167,904
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
การอบรมการเจรจาต่อรอง คืออะไร การอบรมการเจรจาต่อรอง (Negotiation Training) คือ กระบวนการพัฒนาทักษะ, ความรู้, และกลยุทธ์ เพื่อให้บุคคลสามารถหาข้อตกลงหรือข้อยุติที่เป็นประโยชน์สูงสุดกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ผ่านการสื่อสารและการโน้มน้าวอย่างมีหลักการ
ถ้าจะอธิบายให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น การอบรมการเจรจาต่อรองนี้ไม่ใช่แค่การสอนให้ "พูดเก่ง" หรือ "กดดันคู่ต่อสู้" แต่เป็นการสร้างกรอบความคิดและติดอาวุธเครื่องมือที่จำเป็น เพื่อให้การเจรจาเกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีองค์ประกอบสำคัญดังนี้
1. เป้าหมายหลัก: ไม่ใช่แค่การ "เอาชนะ" หลายคนเข้าใจผิดว่าการเจรจาต่อรองคือการต่อสู้ที่ต้องมีคนแพ้-คนชนะ (Win-Lose) แต่หัวใจของการอบรมการเจรจาต่อรองสมัยใหม่คือการสร้างผลลัพธ์แบบ "ชนะ-ชนะ" (Win-Win) ซึ่งหมายถึง: - สร้างความสัมพันธ์ที่ดี: การเจรจาต่อรองที่ประสบความสำเร็จมักนำไปสู่ความร่วมมือในระยะยาว
- หาทางออกที่สร้างสรรค์: มองหาทางเลือกที่ตอบสนองความต้องการของทุกฝ่าย มากกว่าการยึดติดกับจุดยืนของตัวเอง
- บรรลุข้อตกลงที่ยั่งยืน: ข้อตกลงที่ทุกฝ่ายพึงพอใจมีแนวโน้มที่จะถูกปฏิบัติตามมากกว่าข้อตกลงที่เกิดจากการบีบบังคับ
2. สอนอะไรบ้างในหลักสูตร เนื้อหาหลักสูตรการเจรจาต่อรองที่ดีจะครอบคลุมตั้งแต่การเตรียมตัวไปจนถึงการปิดดีล เช่น: - การเตรียมตัว (Preparation): ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด
- การตั้งเป้าหมาย: กำหนดจุดยืนที่ต้องการ (Ideal Outcome), จุดที่ยอมรับได้ (Acceptable Outcome), และจุดที่ต้องลุกออกจากโต๊ะ (Walk-away Point)
- การรวบรวมข้อมูล: ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับคู่เจรจา, ตลาด, และทางเลือกอื่นๆ
- การรู้จัก BATNA (Best Alternative to a Negotiated Agreement): หรือ "ทางเลือกที่ดีที่สุดหากการเจรจาล้มเหลว" การรู้ BATNA ของตัวเองและคาดเดา BATNA ของอีกฝ่าย จะทำให้เรามีอำนาจต่อรองสูงขึ้น
- การเข้าใจคู่เจรจา (Understanding the Other Party):
- เรียนรู้ที่จะแยกแยะระหว่าง "จุดยืน" (Position) คือสิ่งที่เขาพูดว่าต้องการ กับ "ผลประโยชน์" (Interest) คือเหตุผลที่แท้จริงเบื้องหลังว่าทำไมเขาถึงต้องการสิ่งนั้น
- กลยุทธ์และยุทธวิธี (Strategy and Tactics):
- การสร้างทางเลือกที่หลากหลาย (Generating Options)
- การใช้เกณฑ์ที่เป็นกลาง (Using Objective Criteria) เช่น ราคาตลาด, กฎหมาย, หรือมาตรฐานอุตสาหกรรม มาเป็นหลักในการตัดสินใจ
- การวางกรอบการเจรจา (Framing) และการเสนอข้อเสนอแรก (Making the First Offer)
- ทักษะการสื่อสาร (Communication Skills):
- การฟังอย่างตั้งใจ (Active Listening): เพื่อจับประเด็นและเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของอีกฝ่าย
- การตั้งคำถามที่ทรงพลัง (Powerful Questioning): เพื่อขุดลึกลงไปในปัญหาและค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม
- การสื่อสารที่ไม่ใช่วาจา (Non-verbal Communication): การอ่านและควบคุมภาษากาย
- การจัดการอารมณ์และความขัดแย้ง (Managing Emotions and Conflict):
- การควบคุมอารมณ์ของตนเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการยั่วยุ
- เทคนิคการรับมือกับคู่เจรจาที่ใช้อารมณ์หรือมีพฤติกรรมก้าวร้าว
- การลงมือปฏิบัติ (Practical Application):
- ส่วนสำคัญที่สุดคือ การแสดงบทบาทสมมติ (Role-Playing) ผู้เข้าอบรมจะได้ฝึกซ้อมในสถานการณ์จำลองที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริง และได้รับฟีดแบ็กจากวิทยากรและผู้ร่วมอบรมคนอื่นๆ
3. อบรมการเจรจาต่อรองเหมาะกับใคร ทักษะการเจรจาต่อรองจำเป็นสำหรับแทบทุกสายอาชีพและทุกคนในชีวิตประจำวัน: - ฝ่ายขายและการตลาด: เพื่อปิดการขายและสร้างข้อตกลงที่ดีกับลูกค้า
- ฝ่ายจัดซื้อ: เพื่อต่อรองราคาและเงื่อนไขที่ดีที่สุดกับซัพพลายเออร์
- ฝ่ายบุคคล (HR): เพื่อเจรจาเรื่องค่าตอบแทน, สวัสดิการ, หรือแก้ไขข้อขัดแย้งของพนักงาน
- ผู้บริหารและหัวหน้างาน: เพื่อเจรจากับทีมงาน, ผู้ถือหุ้น, หรือคู่ค้าทางธุรกิจ
- เจ้าของธุรกิจ: เพื่อเจรจาในทุกมิติของธุรกิจ ตั้งแต่การหาเงินทุนไปจนถึงการทำสัญญากับคู่ค้า
- ทุกคนในชีวิตประจำวัน: ไม่ว่าจะเป็นการต่อรองซื้อของ, การพูดคุยเรื่องงานบ้านกับคนในครอบครัว, หรือการขอขึ้นเงินเดือน
สรุป: การอบรมการเจรจาต่อรอง ไม่ใช่แค่การสอนเทคนิคเพื่อ "เอาชนะ" แต่คือการ ติดอาวุธทางความคิดและทักษะ เพื่อเปลี่ยนสถานการณ์ที่อาจเกิดความขัดแย้งให้กลายเป็น ความร่วมมือ, สร้างผลลัพธ์แบบ "ชนะ-ชนะ" (Win-Win) ที่ยั่งยืน และยกระดับความสามารถในการสื่อสารของบุคคลในทุกมิติของชีวิต
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
10 ข้อดีของการอบรมการเจรจาต่อรอง (Negotiation Training)การเจรจาต่อรองเป็นศิลปะและศาสตร์ที่ทุกคนต้องใช้ ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม การลงทุนในการอบรมทักษะนี้จะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ามหาศาล นี่คือ 10 ข้อดีที่ชัดเจนครับ 1. บรรลุข้อตกลงที่เหนือกว่าและเพิ่มผลประโยชน์สูงสุด (Achieve Superior Deals)รายละเอียด: นี่คือประโยชน์ที่ชัดเจนที่สุด การอบรมจะสอนให้คุณรู้วิธีเตรียมตัว, กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน (จุดที่ต้องการ, จุดที่ยอมรับได้, จุดที่ต้องลุกออก), และเข้าใจมูลค่าที่แท้จริงของสิ่งที่คุณกำลังเจรจา คุณจะเรียนรู้เทคนิคการเสนอข้อเสนอ, การต่อรองราคา, และการหาคุณค่าเพิ่มเติมอื่นๆ นอกเหนือจากตัวเงิน (เช่น เงื่อนไขการชำระเงิน, การรับประกัน, บริการหลังการขาย) ผลลัพธ์: ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายขายที่สามารถปิดดีลได้ในราคาที่สูงขึ้น หรือฝ่ายจัดซื้อที่สามารถลดต้นทุนได้มากขึ้น ผลลัพธ์คือ ผลกำไรที่เพิ่มขึ้น และข้อตกลงที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กรมากที่สุด
2. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีและยั่งยืน (Build Sustainable Relationships)รายละเอียด: การเจรจาต่อรองที่ดีไม่ใช่การเอาชนะคะคาน แต่เป็นการสร้างผลลัพธ์แบบ "ชนะ-ชนะ" (Win-Win) การอบรมจะสอนให้คุณเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของอีกฝ่าย (Interests) ไม่ใช่แค่สิ่งที่เขาเรียกร้อง (Positions) เมื่อคุณสามารถหาทางออกที่ตอบโจทย์ทั้งสองฝ่ายได้ จะช่วยสร้างความไว้วางใจและความสัมพันธ์อันดีในระยะยาว ผลลัพธ์: ลดความขัดแย้งที่ไม่จำเป็น, สร้างชื่อเสียงที่ดี, และเปลี่ยนคู่เจรจาให้กลายเป็นคู่ค้าหรือพันธมิตรที่พร้อมจะทำธุรกิจกับคุณอีกในอนาคต
3. เพิ่มความมั่นใจในการเผชิญหน้ากับทุกสถานการณ์ (Boost Confidence)รายละเอียด: ความไม่มั่นใจเป็นอุปสรรคสำคัญในการเจรจา การอบรมจะมอบ "กรอบความคิด" (Framework) และ "เครื่องมือ" (Tools) ที่เป็นระบบ ทำให้คุณรู้ว่าต้องทำอะไรในแต่ละขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมตัว, การเปิดประเด็น, ไปจนถึงการปิดการเจรจา เมื่อมีแผนในใจ ความกลัวและความประหม่าจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด ผลลัพธ์: คุณจะกล้าที่จะเรียกร้องในสิ่งที่ควรได้, ไม่ยอมรับข้อเสนอที่เสียเปรียบง่ายเกินไป, และสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างเยือกเย็นแม้จะอยู่ภายใต้ความกดดัน
4. พัฒนาทักษะการสื่อสารและการฟังอย่างเฉียบคม (Enhance Communication & Listening Skills)รายละเอียด: การเจรจาคือการสื่อสาร การอบรมจะเน้นทักษะการฟังอย่างตั้งใจ (Active Listening) เพื่อจับใจความและค้นหาข้อมูลที่ซ่อนอยู่, การตั้งคำถามที่ทรงพลังเพื่อขุดลึกถึงความต้องการของอีกฝ่าย, และการสื่อสารจุดยืนของตัวเองอย่างชัดเจนและโน้มน้าวใจ โดยไม่สร้างความขัดแย้ง ผลลัพธ์: ลดความเข้าใจผิด สื่อสารได้ตรงประเด็น และสามารถ "อ่าน" สถานการณ์และคู่เจรจาได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นทักษะสำคัญที่นำไปใช้ได้กับทุกเรื่องในชีวิต
5. เรียนรู้วิธีจัดการกับความขัดแย้งและสถานการณ์ที่กดดัน (Manage Conflict and Pressure)รายละเอียด: ไม่ใช่ทุกการเจรจาจะราบรื่น คุณอาจต้องเจอกับคู่เจรจาที่ก้าวร้าว, ใช้อารมณ์, หรือใช้เล่ห์เหลี่ยม การอบรมจะสอนเทคนิคการแยก "คน" ออกจาก "ปัญหา", การควบคุมอารมณ์ของตนเอง, และวิธีรับมือกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดอย่างมืออาชีพ ผลลัพธ์: สามารถเปลี่ยนสถานการณ์ที่กำลังจะล้มเหลวให้กลับมาอยู่ในการควบคุมได้ และหาทางออกจากความขัดแย้งได้อย่างสร้างสรรค์
6. ประหยัดเวลาและลดต้นทุนที่มองไม่เห็น (Save Time and Reduce Hidden Costs)รายละเอียด: การเจรจาที่ไม่มีประสิทธิภาพมักจะยืดเยื้อ, วนไปวนมา, และจบลงด้วยข้อตกลงที่ไม่มีใครพอใจ ทำให้ต้องกลับมาแก้ไขปัญหาเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า การมีทักษะที่ดีจะช่วยให้คุณเข้าประเด็นได้เร็ว, หาข้อสรุปได้ไว, และสร้างข้อตกลงที่ชัดเจนตั้งแต่แรก ผลลัพธ์: ลดเวลาที่สูญเสียไปกับการประชุมที่ไม่เกิดประโยชน์ ลดความเสี่ยงที่จะเกิดข้อพิพาททางกฎหมายในอนาคต และทำให้ทีมงานสามารถนำเวลาไปทำงานอื่นที่สร้างสรรค์ได้มากขึ้น
7. ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในการหาทางออก (Foster Creative Problem-Solving)รายละเอียด: การอบรมจะสอนให้คุณมองไกลกว่าการ "แบ่งเค้ก" แต่ให้มองหาวิธี "ขยายขนาดของเค้ก" (Expanding the Pie) หมายถึงการคิดค้นทางเลือกใหม่ๆ ที่อาจไม่มีใครเคยนึกถึงมาก่อน แต่สามารถตอบสนองความต้องการของทุกฝ่ายได้ดีขึ้น ผลลัพธ์: ได้ข้อตกลงที่เป็นนวัตกรรมและมีคุณค่ามากกว่าที่คาดไว้ตอนแรก สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันที่คู่แข่งลอกเลียนแบบได้ยาก
8. เข้าใจอำนาจต่อรองที่แท้จริงของตนเอง (Understand Your True Leverage)รายละเอียด: หลักสูตรที่ดีจะสอนแนวคิดเรื่อง BATNA (Best Alternative to a Negotiated Agreement) หรือ "ทางเลือกที่ดีที่สุดหากการเจรจาล้มเหลว" การที่คุณรู้ว่าถ้าดีลนี้ไม่สำเร็จ คุณยังมีทางเลือกที่ดีอะไรรออยู่ จะทำให้คุณมีอำนาจต่อรองสูงขึ้นโดยอัตโนมัติ และไม่จำเป็นต้องยอมรับข้อเสนอที่ไม่ดี ผลลัพธ์: ทำให้คุณเจรจาจากจุดที่แข็งแกร่ง (Position of Strength) ไม่ใช่จุดที่อ่อนแอหรือสิ้นหวัง
9. ยกระดับมาตรฐานและสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง (Raise Organizational Standards)รายละเอียด: เมื่อพนักงานหลายคนในองค์กรได้รับการอบรมการเจรจาต่อรอง พวกเขาจะใช้ภาษา, กระบวนการ, และหลักการเดียวกัน ทำให้การทำงานร่วมกันระหว่างแผนก (เช่น ฝ่ายขายกับฝ่ายกฎหมาย) ราบรื่นขึ้น และสร้างมาตรฐานในการทำข้อตกลงกับภายนอกที่เป็นมืออาชีพ ผลลัพธ์: ภาพลักษณ์ขององค์กรดีขึ้น และสร้างวัฒนธรรมที่มุ่งเน้นการหาทางออกแบบร่วมมือกัน มากกว่าการเอาชนะกันเอง
10. เป็นทักษะที่นำไปใช้ได้ตลอดชีวิต (A Veritable Life Skill)รายละเอียด: ทักษะการเจรจาต่อรองไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในห้องประชุม คุณสามารถนำไปใช้ได้กับทุกมิติของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการต่อรองซื้อบ้านหรือรถ, การพูดคุยกับผู้รับเหมา, การขอขึ้นเงินเดือน, หรือแม้กระทั่งการตกลงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ กับคนในครอบครัว ผลลัพธ์: พัฒนาคุณภาพชีวิตโดยรวม ทำให้คุณสามารถจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและราบรื่นขึ้น
สรุป การอบรมการเจรจาต่อรองคือการลงทุนในทักษะพื้นฐานของมนุษย์ที่ทรงพลังที่สุดอย่างหนึ่ง ซึ่งจะสร้างผลตอบแทนได้ทั้งในรูปแบบของตัวเงิน, ความสัมพันธ์, และความสำเร็จทั้งในอาชีพการงานและชีวิตส่วนตัว
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
www.VichaiSalesAcademy.com
|
|
|
|
อบรมการขาย, อบรมการตลาด, อบรมการเจรจาต่อรอง, รับอบรมการขาย, รับอบรมการตลาด, รับอบรมการเจรจาต่อรอง, บริการอบรมการขาย, บริการอบรมการตลาด, บริการอบรมการเจรจาต่อรอง, สอนอบรมการขาย, สอนอบรมการตลาด, สอนอบรมการเจรจาต่อรอง, โรงเรียนอบรมการขาย, โรงเรียนอบรมการตลาด, โรงเรียนอบรมการเจรจาต่อรอง, หลักสูตรอบรมการขาย, หลักสูตรอบรมการตลาด, หลักสูตรอบรมการเจรจาต่อรอง, เปิดอบรมการขาย, เปิดอบรมการตลาด, เปิดอบรมการเจรจาต่อรอง, อบรมการขายสำหรับนักขาย, อบรมการตลาดสำหรับนักการตลาด, อบรมการเจรจาต่อรองสำหรับนักขาย, ให้บริการอบรมการขาย, ให้บริการอบรมการตลาด, ให้บริการอบรมการเจรจาต่อรอง, ทีมอบรมการขาย, ทีมอบรมการตลาด, ทีมอบรมการเจรจาต่อรอง, เป็นที่ปรึกษาการขาย, เป็นที่ปรึกษาการตลาด, เป็นที่ปรึกษาการบริหาร, เป็นที่ปรึกษาการสื่อสารและการเจรจาต่อรอง, เป็นที่ปรึกษาให้กับทีมการขายและการตลาด, เป็นที่ปรึกษาให้กับผู้บริหาร, เป็นที่ปรึกษาให้กับเจ้าของธุรกิจ, อาจารย์วิชัย ว่องศิลป์วัฒนา, ดร.วิชัย ว่องศิลป์วัฒนา, Sales Consultant, Sales Coach, Marketing Consultant, Marketing Coach, Management Consultant, Communication & Negotiation Consultant, Communication & Negotiation Coach, Executive Coach, Business Owner Coach, Entrepreneur Coach
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
 |
|