Social Media

บทความ ดร.วิชัย ว่องศิลป์วัฒนา

13 กลยุทธ์สำหรับพิฆาตเซลส์แมนของบริษัทซัพพลายเออร์

การเจรจากับลูกค้าแบบดั้งเดิม ( Traditional Trade ) โดย ดร.วิชัย ว่องศิลป์วัฒนา

นักขายจะรับมืออย่างไร? ไม่ให้เกิดการเจรจาแบบ “OH NO” โดย ดร.วิชัย ว่องศิลป์วัฒนา

เทคนิคการเจรจาให้ลูกค้า Say Yes! โดย ดร.วิชัย ว่องศิลป์วัฒนา

เคล็ดลับการปิดการขายให้ได้ยอดสวยๆ : ดร.วิชัย ว่องศิลป์วัฒนา

18 เทคนิคการขายที่ใช้ได้ดีกับลูกค้าทุกสถานการณ์ (ตอนที่ 3) : ดร.วิชัย ว่องศิลป์วัฒนา

สุดยอดเคล็ดลับ การเจรจาต่อรองทางโทรศัพท์สำหรับนักขายมือโปร (ตอนที่ 2) : ดร.วิชัย ว่องศิลป์วัฒนา

สุดยอดเคล็ดลับ การเจรจาต่อรองทางโทรศัพท์สำหรับนักขายมือโปร : ดร.วิชัย ว่องศิลป์วัฒนา

18 เทคนิคการขายที่สามารถใช้กับลูกค้าในหลายรูปแบบ (ต่อ) : ดร.วิชัย ว่องศิลป์วัฒนา

18 เทคนิคการขายที่ใช้ได้ดีกับลูกค้าทุกสถานการณ์ : ดร.วิชัย ว่องศิลป์วัฒนา

เคล็ดลับการเจรจาต่อรองแบบชนะสามฝ่าย(ต่อ) : ดร.วิชัย ว่องศิลป์วัฒนา

เคล็ดลับการเจรจาต่อรองแบบชนะสามฝ่าย(ต่อ) : ดร.วิชัย ว่องศิลป์วัฒนา

เคล็ดลับการเจรจาต่อรองแบบชนะสามฝ่าย (ตอนที่ 14-15) : ดร.วิชัย ว่องศิลป์วัฒนา

เคล็ดลับการเจรจาต่อรองแบบชนะสามฝ่าย (เคล็ดที่ 3) โดย ดร.วิชัย ว่องศิลป์วัฒนา

เคล็ดลับการขายความคิด (ต่อ) : ดร.วิชัย ว่องศิลป์วัฒนา

เคล็ดลับการขายความคิด : ดร.วิชัย ว่องศิลป์วัฒนา

สติปัญญาแห่งการรับฟัง : ดร.วิชัย ว่องศิลป์วัฒนา

เคล็ดลับการเจรจาต่อรองแบบชนะสามฝ่าย (เคล็ดลับที่ 4) โดย ดร.วิชัย ว่องศิลป์วัฒนา

เคล็ดลับการเจรจาต่อรองแบบชนะสามฝ่าย (เคล็ดลับที่ 5) โดย ดร.วิชัย ว่องศิลป์วัฒนา
ผู้ชม
วันนี้ 90
เมื่อวาน 271
ทั้งหมด 911,133
ชมหน้าอื่นๆ
วันนี้ 91
เมื่อวาน 288
ทั้งหมด 1,167,904

การอบรมการเจรจาต่อรอง คืออะไร


การอบรมการเจรจาต่อรอง 
(Negotiation Training) คือ กระบวนการพัฒนาทักษะ, ความรู้, และกลยุทธ์ เพื่อให้บุคคลสามารถหาข้อตกลงหรือข้อยุติที่เป็นประโยชน์สูงสุดกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ผ่านการสื่อสารและการโน้มน้าวอย่างมีหลักการ


ถ้าจะอธิบายให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น การอบรมการเจรจาต่อรองนี้ไม่ใช่แค่การสอนให้ "พูดเก่ง" หรือ "กดดันคู่ต่อสู้" แต่เป็นการสร้างกรอบความคิดและติดอาวุธเครื่องมือที่จำเป็น เพื่อให้การเจรจาเกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีองค์ประกอบสำคัญดังนี้


1. เป้าหมายหลัก: ไม่ใช่แค่การ "เอาชนะ"

หลายคนเข้าใจผิดว่าการเจรจาต่อรองคือการต่อสู้ที่ต้องมีคนแพ้-คนชนะ (Win-Lose) แต่หัวใจของการอบรมการเจรจาต่อรองสมัยใหม่คือการสร้างผลลัพธ์แบบ "ชนะ-ชนะ" (Win-Win) ซึ่งหมายถึง:

  • สร้างความสัมพันธ์ที่ดี: การเจรจาต่อรองที่ประสบความสำเร็จมักนำไปสู่ความร่วมมือในระยะยาว
  • หาทางออกที่สร้างสรรค์: มองหาทางเลือกที่ตอบสนองความต้องการของทุกฝ่าย มากกว่าการยึดติดกับจุดยืนของตัวเอง
  • บรรลุข้อตกลงที่ยั่งยืน: ข้อตกลงที่ทุกฝ่ายพึงพอใจมีแนวโน้มที่จะถูกปฏิบัติตามมากกว่าข้อตกลงที่เกิดจากการบีบบังคับ

2. สอนอะไรบ้างในหลักสูตร

เนื้อหาหลักสูตรการเจรจาต่อรองที่ดีจะครอบคลุมตั้งแต่การเตรียมตัวไปจนถึงการปิดดีล เช่น:

  • การเตรียมตัว (Preparation): ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด
    • การตั้งเป้าหมาย: กำหนดจุดยืนที่ต้องการ (Ideal Outcome), จุดที่ยอมรับได้ (Acceptable Outcome), และจุดที่ต้องลุกออกจากโต๊ะ (Walk-away Point)
    • การรวบรวมข้อมูล: ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับคู่เจรจา, ตลาด, และทางเลือกอื่นๆ
    • การรู้จัก BATNA (Best Alternative to a Negotiated Agreement): หรือ "ทางเลือกที่ดีที่สุดหากการเจรจาล้มเหลว" การรู้ BATNA ของตัวเองและคาดเดา BATNA ของอีกฝ่าย จะทำให้เรามีอำนาจต่อรองสูงขึ้น
  • การเข้าใจคู่เจรจา (Understanding the Other Party):
    • เรียนรู้ที่จะแยกแยะระหว่าง "จุดยืน" (Position) คือสิ่งที่เขาพูดว่าต้องการ กับ "ผลประโยชน์" (Interest) คือเหตุผลที่แท้จริงเบื้องหลังว่าทำไมเขาถึงต้องการสิ่งนั้น
  • กลยุทธ์และยุทธวิธี (Strategy and Tactics):
    • การสร้างทางเลือกที่หลากหลาย (Generating Options)
    • การใช้เกณฑ์ที่เป็นกลาง (Using Objective Criteria) เช่น ราคาตลาด, กฎหมาย, หรือมาตรฐานอุตสาหกรรม มาเป็นหลักในการตัดสินใจ
    • การวางกรอบการเจรจา (Framing) และการเสนอข้อเสนอแรก (Making the First Offer)
  • ทักษะการสื่อสาร (Communication Skills):
    • การฟังอย่างตั้งใจ (Active Listening): เพื่อจับประเด็นและเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของอีกฝ่าย
    • การตั้งคำถามที่ทรงพลัง (Powerful Questioning): เพื่อขุดลึกลงไปในปัญหาและค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม
    • การสื่อสารที่ไม่ใช่วาจา (Non-verbal Communication): การอ่านและควบคุมภาษากาย
  • การจัดการอารมณ์และความขัดแย้ง (Managing Emotions and Conflict):
    • การควบคุมอารมณ์ของตนเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการยั่วยุ
    • เทคนิคการรับมือกับคู่เจรจาที่ใช้อารมณ์หรือมีพฤติกรรมก้าวร้าว
  • การลงมือปฏิบัติ (Practical Application):
    • ส่วนสำคัญที่สุดคือ การแสดงบทบาทสมมติ (Role-Playing) ผู้เข้าอบรมจะได้ฝึกซ้อมในสถานการณ์จำลองที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริง และได้รับฟีดแบ็กจากวิทยากรและผู้ร่วมอบรมคนอื่นๆ

3. อบรมการเจรจาต่อรองเหมาะกับใคร

ทักษะการเจรจาต่อรองจำเป็นสำหรับแทบทุกสายอาชีพและทุกคนในชีวิตประจำวัน:

  • ฝ่ายขายและการตลาด: เพื่อปิดการขายและสร้างข้อตกลงที่ดีกับลูกค้า
  • ฝ่ายจัดซื้อ: เพื่อต่อรองราคาและเงื่อนไขที่ดีที่สุดกับซัพพลายเออร์
  • ฝ่ายบุคคล (HR): เพื่อเจรจาเรื่องค่าตอบแทน, สวัสดิการ, หรือแก้ไขข้อขัดแย้งของพนักงาน
  • ผู้บริหารและหัวหน้างาน: เพื่อเจรจากับทีมงาน, ผู้ถือหุ้น, หรือคู่ค้าทางธุรกิจ
  • เจ้าของธุรกิจ: เพื่อเจรจาในทุกมิติของธุรกิจ ตั้งแต่การหาเงินทุนไปจนถึงการทำสัญญากับคู่ค้า
  • ทุกคนในชีวิตประจำวัน: ไม่ว่าจะเป็นการต่อรองซื้อของ, การพูดคุยเรื่องงานบ้านกับคนในครอบครัว, หรือการขอขึ้นเงินเดือน

สรุป:
การอบรมการเจรจาต่อรอง ไม่ใช่แค่การสอนเทคนิคเพื่อ "เอาชนะ" แต่คือการ ติดอาวุธทางความคิดและทักษะ เพื่อเปลี่ยนสถานการณ์ที่อาจเกิดความขัดแย้งให้กลายเป็น ความร่วมมือ, สร้างผลลัพธ์แบบ "ชนะ-ชนะ" (Win-Win) ที่ยั่งยืน และยกระดับความสามารถในการสื่อสารของบุคคลในทุกมิติของชีวิต

10 ข้อดีของการอบรมการเจรจาต่อรอง (Negotiation Training)

การเจรจาต่อรองเป็นศิลปะและศาสตร์ที่ทุกคนต้องใช้ ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม การลงทุนในการอบรมทักษะนี้จะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ามหาศาล นี่คือ 10 ข้อดีที่ชัดเจนครับ

1. บรรลุข้อตกลงที่เหนือกว่าและเพิ่มผลประโยชน์สูงสุด (Achieve Superior Deals)

  • รายละเอียด: นี่คือประโยชน์ที่ชัดเจนที่สุด การอบรมจะสอนให้คุณรู้วิธีเตรียมตัว, กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน (จุดที่ต้องการ, จุดที่ยอมรับได้, จุดที่ต้องลุกออก), และเข้าใจมูลค่าที่แท้จริงของสิ่งที่คุณกำลังเจรจา คุณจะเรียนรู้เทคนิคการเสนอข้อเสนอ, การต่อรองราคา, และการหาคุณค่าเพิ่มเติมอื่นๆ นอกเหนือจากตัวเงิน (เช่น เงื่อนไขการชำระเงิน, การรับประกัน, บริการหลังการขาย)

  • ผลลัพธ์: ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายขายที่สามารถปิดดีลได้ในราคาที่สูงขึ้น หรือฝ่ายจัดซื้อที่สามารถลดต้นทุนได้มากขึ้น ผลลัพธ์คือ ผลกำไรที่เพิ่มขึ้น และข้อตกลงที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กรมากที่สุด

2. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีและยั่งยืน (Build Sustainable Relationships)

  • รายละเอียด: การเจรจาต่อรองที่ดีไม่ใช่การเอาชนะคะคาน แต่เป็นการสร้างผลลัพธ์แบบ "ชนะ-ชนะ" (Win-Win) การอบรมจะสอนให้คุณเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของอีกฝ่าย (Interests) ไม่ใช่แค่สิ่งที่เขาเรียกร้อง (Positions) เมื่อคุณสามารถหาทางออกที่ตอบโจทย์ทั้งสองฝ่ายได้ จะช่วยสร้างความไว้วางใจและความสัมพันธ์อันดีในระยะยาว

  • ผลลัพธ์: ลดความขัดแย้งที่ไม่จำเป็น, สร้างชื่อเสียงที่ดี, และเปลี่ยนคู่เจรจาให้กลายเป็นคู่ค้าหรือพันธมิตรที่พร้อมจะทำธุรกิจกับคุณอีกในอนาคต

3. เพิ่มความมั่นใจในการเผชิญหน้ากับทุกสถานการณ์ (Boost Confidence)

  • รายละเอียด: ความไม่มั่นใจเป็นอุปสรรคสำคัญในการเจรจา การอบรมจะมอบ "กรอบความคิด" (Framework) และ "เครื่องมือ" (Tools) ที่เป็นระบบ ทำให้คุณรู้ว่าต้องทำอะไรในแต่ละขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมตัว, การเปิดประเด็น, ไปจนถึงการปิดการเจรจา เมื่อมีแผนในใจ ความกลัวและความประหม่าจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด

  • ผลลัพธ์: คุณจะกล้าที่จะเรียกร้องในสิ่งที่ควรได้, ไม่ยอมรับข้อเสนอที่เสียเปรียบง่ายเกินไป, และสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างเยือกเย็นแม้จะอยู่ภายใต้ความกดดัน

4. พัฒนาทักษะการสื่อสารและการฟังอย่างเฉียบคม (Enhance Communication & Listening Skills)

  • รายละเอียด: การเจรจาคือการสื่อสาร การอบรมจะเน้นทักษะการฟังอย่างตั้งใจ (Active Listening) เพื่อจับใจความและค้นหาข้อมูลที่ซ่อนอยู่, การตั้งคำถามที่ทรงพลังเพื่อขุดลึกถึงความต้องการของอีกฝ่าย, และการสื่อสารจุดยืนของตัวเองอย่างชัดเจนและโน้มน้าวใจ โดยไม่สร้างความขัดแย้ง

  • ผลลัพธ์: ลดความเข้าใจผิด สื่อสารได้ตรงประเด็น และสามารถ "อ่าน" สถานการณ์และคู่เจรจาได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นทักษะสำคัญที่นำไปใช้ได้กับทุกเรื่องในชีวิต

5. เรียนรู้วิธีจัดการกับความขัดแย้งและสถานการณ์ที่กดดัน (Manage Conflict and Pressure)

  • รายละเอียด: ไม่ใช่ทุกการเจรจาจะราบรื่น คุณอาจต้องเจอกับคู่เจรจาที่ก้าวร้าว, ใช้อารมณ์, หรือใช้เล่ห์เหลี่ยม การอบรมจะสอนเทคนิคการแยก "คน" ออกจาก "ปัญหา", การควบคุมอารมณ์ของตนเอง, และวิธีรับมือกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดอย่างมืออาชีพ

  • ผลลัพธ์: สามารถเปลี่ยนสถานการณ์ที่กำลังจะล้มเหลวให้กลับมาอยู่ในการควบคุมได้ และหาทางออกจากความขัดแย้งได้อย่างสร้างสรรค์

6. ประหยัดเวลาและลดต้นทุนที่มองไม่เห็น (Save Time and Reduce Hidden Costs)

  • รายละเอียด: การเจรจาที่ไม่มีประสิทธิภาพมักจะยืดเยื้อ, วนไปวนมา, และจบลงด้วยข้อตกลงที่ไม่มีใครพอใจ ทำให้ต้องกลับมาแก้ไขปัญหาเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า การมีทักษะที่ดีจะช่วยให้คุณเข้าประเด็นได้เร็ว, หาข้อสรุปได้ไว, และสร้างข้อตกลงที่ชัดเจนตั้งแต่แรก

  • ผลลัพธ์: ลดเวลาที่สูญเสียไปกับการประชุมที่ไม่เกิดประโยชน์ ลดความเสี่ยงที่จะเกิดข้อพิพาททางกฎหมายในอนาคต และทำให้ทีมงานสามารถนำเวลาไปทำงานอื่นที่สร้างสรรค์ได้มากขึ้น

7. ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในการหาทางออก (Foster Creative Problem-Solving)

  • รายละเอียด: การอบรมจะสอนให้คุณมองไกลกว่าการ "แบ่งเค้ก" แต่ให้มองหาวิธี "ขยายขนาดของเค้ก" (Expanding the Pie) หมายถึงการคิดค้นทางเลือกใหม่ๆ ที่อาจไม่มีใครเคยนึกถึงมาก่อน แต่สามารถตอบสนองความต้องการของทุกฝ่ายได้ดีขึ้น

  • ผลลัพธ์: ได้ข้อตกลงที่เป็นนวัตกรรมและมีคุณค่ามากกว่าที่คาดไว้ตอนแรก สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันที่คู่แข่งลอกเลียนแบบได้ยาก

8. เข้าใจอำนาจต่อรองที่แท้จริงของตนเอง (Understand Your True Leverage)

  • รายละเอียด: หลักสูตรที่ดีจะสอนแนวคิดเรื่อง BATNA (Best Alternative to a Negotiated Agreement) หรือ "ทางเลือกที่ดีที่สุดหากการเจรจาล้มเหลว" การที่คุณรู้ว่าถ้าดีลนี้ไม่สำเร็จ คุณยังมีทางเลือกที่ดีอะไรรออยู่ จะทำให้คุณมีอำนาจต่อรองสูงขึ้นโดยอัตโนมัติ และไม่จำเป็นต้องยอมรับข้อเสนอที่ไม่ดี

  • ผลลัพธ์: ทำให้คุณเจรจาจากจุดที่แข็งแกร่ง (Position of Strength) ไม่ใช่จุดที่อ่อนแอหรือสิ้นหวัง

9. ยกระดับมาตรฐานและสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง (Raise Organizational Standards)

  • รายละเอียด: เมื่อพนักงานหลายคนในองค์กรได้รับการอบรมการเจรจาต่อรอง พวกเขาจะใช้ภาษา, กระบวนการ, และหลักการเดียวกัน ทำให้การทำงานร่วมกันระหว่างแผนก (เช่น ฝ่ายขายกับฝ่ายกฎหมาย) ราบรื่นขึ้น และสร้างมาตรฐานในการทำข้อตกลงกับภายนอกที่เป็นมืออาชีพ

  • ผลลัพธ์: ภาพลักษณ์ขององค์กรดีขึ้น และสร้างวัฒนธรรมที่มุ่งเน้นการหาทางออกแบบร่วมมือกัน มากกว่าการเอาชนะกันเอง

10. เป็นทักษะที่นำไปใช้ได้ตลอดชีวิต (A Veritable Life Skill)

  • รายละเอียด: ทักษะการเจรจาต่อรองไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในห้องประชุม คุณสามารถนำไปใช้ได้กับทุกมิติของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการต่อรองซื้อบ้านหรือรถ, การพูดคุยกับผู้รับเหมา, การขอขึ้นเงินเดือน, หรือแม้กระทั่งการตกลงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ กับคนในครอบครัว

  • ผลลัพธ์: พัฒนาคุณภาพชีวิตโดยรวม ทำให้คุณสามารถจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและราบรื่นขึ้น

สรุป

การอบรมการเจรจาต่อรองคือการลงทุนในทักษะพื้นฐานของมนุษย์ที่ทรงพลังที่สุดอย่างหนึ่ง ซึ่งจะสร้างผลตอบแทนได้ทั้งในรูปแบบของตัวเงิน, ความสัมพันธ์, และความสำเร็จทั้งในอาชีพการงานและชีวิตส่วนตัว

www.VichaiSalesAcademy.com
โรงเรียน อบรมการขาย อบรมการตลาด อบรมการเจรจาต่อรอง อบรมการขายและการบริการ เราเป็นโรงเรียนนักขายแห่งแรกของประเทศไทย สอนหลักสูตรนักขายมีการอบรมการขาย อบรมการตลาด อบรมการเจรจาต่อรอง อบรมการขายและการบริการ โดยวิทยากรที่มีประสบการณ์ มากกว่า 30 ปีและเป็นที่ปรึกษาบริษัทชั้นนำของประเทศไทยมากมาย บริการฝึกอบรมวิชาการขาย อบรมนักขาย อบรมการขายและการบริการ ฝึกอบรมนักขาย อบรมการตลาด ฝึกอบรมนักการตลาด อบรมการเจรจาต่อรอง บริการจัดหาทีมขายและการตลาด หลักสูตรฝึกอบรมการขาย หลักสูตรนักขาย หลักสูตรฝึกอบรมการตลาด Workshop Training หลักสูตรฝึกอบรมการตลาด
อบรมการขายอบรมการตลาดอบรมการเจรจาต่อรอง, รับอบรมการขาย, รับอบรมการตลาด, รับอบรมการเจรจาต่อรอง, บริการอบรมการขาย, บริการอบรมการตลาด, บริการอบรมการเจรจาต่อรอง, สอนอบรมการขาย, สอนอบรมการตลาด, สอนอบรมการเจรจาต่อรอง, โรงเรียนอบรมการขาย, โรงเรียนอบรมการตลาด, โรงเรียนอบรมการเจรจาต่อรองหลักสูตรอบรมการขายหลักสูตรอบรมการตลาดหลักสูตรอบรมการเจรจาต่อรอง, เปิดอบรมการขาย, เปิดอบรมการตลาด, เปิดอบรมการเจรจาต่อรองอบรมการขายสำหรับนักขาย, อบรมการตลาดสำหรับนักการตลาด, อบรมการเจรจาต่อรองสำหรับนักขาย, ให้บริการอบรมการขาย, ให้บริการอบรมการตลาด, ให้บริการอบรมการเจรจาต่อรอง, ทีมอบรมการขาย, ทีมอบรมการตลาด, ทีมอบรมการเจรจาต่อรอง,  เป็นที่ปรึกษาการขาย, เป็นที่ปรึกษาการตลาด, เป็นที่ปรึกษาการบริหาร, เป็นที่ปรึกษาการสื่อสารและการเจรจาต่อรอง, เป็นที่ปรึกษาให้กับทีมการขายและการตลาด, เป็นที่ปรึกษาให้กับผู้บริหาร, เป็นที่ปรึกษาให้กับเจ้าของธุรกิจ, อาจารย์วิชัย ว่องศิลป์วัฒนา, ดร.วิชัย ว่องศิลป์วัฒนาSales Consultant, Sales Coach, Marketing Consultant, Marketing Coach, Management Consultant, Communication & Negotiation Consultant, Communication & Negotiation Coach, Executive Coach, Business Owner Coach, Entrepreneur Coach
เว็บสำเร็จรูป
×