|
|
|
|
|
|
|
|
|
ผู้ชม
|
|
วันนี้
|
108
|
เมื่อวาน
|
271
|
ทั้งหมด
|
911,151
|
|
|
ชมหน้าอื่นๆ
|
|
วันนี้
|
109
|
เมื่อวาน
|
288
|
ทั้งหมด
|
1,167,922
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
การส่งเสริมการขายในยุค Digital (Digital Sales Promotion) คืออะไร?
การส่งเสริมการขายในยุคดิจิทัล (Digital Sales Promotion) คือ การนำกลยุทธ์และเทคนิคการส่งเสริมการขายแบบดั้งเดิม (เช่น การลดราคา, การแจกของแถม, การชิงโชค) มาประยุกต์ใช้ผ่านช่องทางดิจิทัลต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อที่รวดเร็วขึ้น, เพิ่มยอดขายในระยะสั้น, และสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าบนโลกออนไลน์ หัวใจสำคัญคือการใช้ประโยชน์จากเครื่องมือและแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น โซเชียลมีเดีย, เว็บไซต์, อีเมล, แอปพลิเคชันบนมือถือ, และ E-commerce เพื่อนำเสนอโปรโมชันไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ, วัดผลได้, และสร้างปฏิสัมพันธ์ได้ทันที ตัวอย่างกิจกรรมส่งเสริมการขายในยุคดิจิทัล: - โค้ดส่วนลด (Promo Code): การแจกโค้ดส่วนลดผ่านทาง Facebook, LINE หรืออีเมล เพื่อให้ลูกค้านำไปใช้ซื้อสินค้าบนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน
- Flash Sale: การลดราคาสินค้าแบบกระหน่ำในระยะเวลาที่จำกัดมากๆ (เช่น 2 ชั่วโมง) บนแพลตฟอร์ม E-commerce เพื่อสร้างความรู้สึกเร่งด่วน (Urgency)
- โปรโมชันส่งฟรี: การเสนอเงื่อนไข "ส่งฟรีเมื่อซื้อครบ X บาท" บนหน้าเว็บไซต์ เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อสินค้าเพิ่ม
- Giveaway หรือ Contest: การจัดกิจกรรมแจกของรางวัลบน Instagram หรือ Facebook โดยมีเงื่อนไขให้ผู้ร่วมสนุกต้องกด Like, Share, Tag เพื่อน เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง
- โปรแกรมสะสมคะแนนดิจิทัล (Digital Loyalty Program): การให้ลูกค้าสะสมแต้มผ่านแอปพลิเคชันทุกครั้งที่ซื้อ เพื่อแลกรับส่วนลดหรือของรางวัลในครั้งถัดไป
- โปรแกรมแนะนำเพื่อน (Referral Program): การมอบส่วนลดหรือเครดิตให้กับทั้งผู้แนะนำและเพื่อนที่ถูกแนะนำ เมื่อมีการซื้อสินค้าเกิดขึ้น
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
10 ข้อดีของการส่งเสริมการขายในยุคดิจิทัล - เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ (Precise Targeting)
แพลตฟอร์มดิจิทัลอย่าง Facebook หรือ Google ช่วยให้เราสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่จะเห็นโปรโมชันได้อย่างละเอียด ทั้งตามเพศ, อายุ, ความสนใจ, สถานที่ หรือแม้แต่พฤติกรรมการซื้อในอดีต ทำให้งบประมาณถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพ
- วัดผลได้แม่นยำและรวดเร็ว (Highly Measurable and Fast)
เราสามารถติดตามผลลัพธ์ของแคมเปญได้แบบเรียลไทม์ เช่น จำนวนคนเห็น, จำนวนคลิก, อัตราการใช้โค้ดส่วนลด, และยอดขายที่เกิดขึ้นจากโปรโมชันนั้นๆ ทำให้รู้ได้ทันทีว่าแคมเปญประสบความสำเร็จหรือไม่
- ต้นทุนต่ำกว่าและคุ้มค่ากว่า (Lower Cost and Higher ROI)
เมื่อเทียบกับการทำโปรโมชันผ่านสื่อดั้งเดิม (เช่น โฆษณาทางทีวี, สิ่งพิมพ์) การทำโปรโมชันผ่านช่องทางดิจิทัลมักใช้ต้นทุนที่ต่ำกว่ามาก แต่สามารถเข้าถึงคนได้ในวงกว้างและตรงกลุ่มเป้าหมายกว่า ทำให้มีโอกาสได้ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ที่สูงขึ้น
- สร้างการตอบสนองได้ทันที (Drives Immediate Action)
ลูกค้าสามารถเห็นโปรโมชันบนโซเชียลมีเดีย, คลิก, และทำการสั่งซื้อได้ภายในไม่กี่นาที โดยเฉพาะโปรโมชันประเภท Flash Sale ที่สร้างแรงกระตุ้นให้ต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
- สร้างโอกาสในการบอกต่อ (Viral Potential)
โปรโมชันที่น่าสนใจหรือกิจกรรมสนุกๆ บนโลกออนไลน์สามารถถูกแชร์และบอกต่อได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายโดยผู้ใช้งานเอง (Viral Marketing) ทำให้แคมเปญสามารถกระจายออกไปในวงกว้างโดยไม่ต้องใช้งบประมาณเพิ่ม
- สร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคล (Personalization)
เราสามารถใช้ข้อมูลลูกค้าเพื่อนำเสนอโปรโมชันที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลได้ เช่น การส่งโค้ดส่วนลดพิเศษในวันเกิดผ่านอีเมล หรือการเสนอโปรโมชันสินค้าที่ลูกค้าเคยเข้ามาดูแต่ยังไม่ตัดสินใจซื้อ
- เก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อต่อยอด (Customer Data Collection)
ทุกๆ แคมเปญส่งเสริมการขายเป็นโอกาสในการเก็บข้อมูลลูกค้า (เช่น อีเมล, เบอร์โทรศัพท์, ความสนใจ) เพื่อนำไปวิเคราะห์และทำการตลาดในอนาคต หรือสร้างฐานลูกค้าสำหรับโปรแกรมรักษาสัมพันธ์ (CRM)
- มีความยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้ง่าย (Flexible and Agile)
หากพบว่าโปรโมชันที่ปล่อยออกไปไม่ได้รับผลตอบรับที่ดี เราสามารถปรับเปลี่ยนเงื่อนไข, รูปแบบ หรือแม้กระทั่งหยุดแคมเปญได้ทันที ซึ่งแตกต่างจากสื่อดั้งเดิมที่เมื่อผลิตไปแล้วจะแก้ไขได้ยาก
- เพิ่มการมีส่วนร่วมและความสัมพันธ์กับลูกค้า (Increases Engagement and Customer Relationships)
กิจกรรมอย่างการชิงโชค, การทำโพล หรือการ Live สดแจกของรางวัล ช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทำให้ลูกค้ารู้สึกผูกพันกับแบรนด์มากกว่าแค่การซื้อ-ขาย
- เข้าถึงได้ในวงกว้างและไร้พรมแดน (Broad and Borderless Reach)
อินเทอร์เน็ตทำให้โปรโมชันของเราสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทั่วประเทศหรือทั่วโลก (ขึ้นอยู่กับธุรกิจ) โดยไม่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่ทางกายภาพเหมือนการตั้งป้ายโฆษณาหรือแจกใบปลิว
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
www.VichaiSalesAcademy.com
|
|
|
|
อบรมการขาย, อบรมการตลาด, อบรมการเจรจาต่อรอง, รับอบรมการขาย, รับอบรมการตลาด, รับอบรมการเจรจาต่อรอง, บริการอบรมการขาย, บริการอบรมการตลาด, บริการอบรมการเจรจาต่อรอง, สอนอบรมการขาย, สอนอบรมการตลาด, สอนอบรมการเจรจาต่อรอง, โรงเรียนอบรมการขาย, โรงเรียนอบรมการตลาด, โรงเรียนอบรมการเจรจาต่อรอง, หลักสูตรอบรมการขาย, หลักสูตรอบรมการตลาด, หลักสูตรอบรมการเจรจาต่อรอง, เปิดอบรมการขาย, เปิดอบรมการตลาด, เปิดอบรมการเจรจาต่อรอง, อบรมการขายสำหรับนักขาย, อบรมการตลาดสำหรับนักการตลาด, อบรมการเจรจาต่อรองสำหรับนักขาย, ให้บริการอบรมการขาย, ให้บริการอบรมการตลาด, ให้บริการอบรมการเจรจาต่อรอง, ทีมอบรมการขาย, ทีมอบรมการตลาด, ทีมอบรมการเจรจาต่อรอง, เป็นที่ปรึกษาการขาย, เป็นที่ปรึกษาการตลาด, เป็นที่ปรึกษาการบริหาร, เป็นที่ปรึกษาการสื่อสารและการเจรจาต่อรอง, เป็นที่ปรึกษาให้กับทีมการขายและการตลาด, เป็นที่ปรึกษาให้กับผู้บริหาร, เป็นที่ปรึกษาให้กับเจ้าของธุรกิจ, อาจารย์วิชัย ว่องศิลป์วัฒนา, ดร.วิชัย ว่องศิลป์วัฒนา, Sales Consultant, Sales Coach, Marketing Consultant, Marketing Coach, Management Consultant, Communication & Negotiation Consultant, Communication & Negotiation Coach, Executive Coach, Business Owner Coach, Entrepreneur Coach
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
 |
|